วันจันทร์
มื้อเช้า: ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + ไข่ต้ม 2 ฟอง + แตงกวา
มื้อกลางวัน: ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + อกไก่นึ่ง + บรอกโคลี
มื้อเย็น: ยำปลาทู + ข้าวไรซ์เบอร์รี่น้อยๆ
วันอังคาร
มื้อเช้า: โจ๊กข้าวไรซ์เบอร์รี่ + ไข่ลวก
มื้อกลางวัน: ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + แกงเลียง
มื้อเย็น: สลัดอกไก่ + ข้าวไรซ์เบอร์รี่ 2 ช้อน
วันพุธ
มื้อเช้า: ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + ปลาย่าง + ผักลวก
มื้อกลางวัน: ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + ลาบอกไก่ไม่ใส่ข้าวคั่ว
มื้อเย็น: ซุปผัก + เต้าหู้นึ่ง
วันพฤหัส
มื้อเช้า: ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + ไข่เจียวไม่ใช้น้ำมัน
มื้อกลางวัน: ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + แกงส้มผักรวม
มื้อเย็น: ปลานึ่ง + ผักสด + ข้าวไรซ์เบอร์รี่น้อยๆ
วันศุกร์
มื้อเช้า: ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + ไข่ดาวน้ำ + แตงโม
มื้อกลางวัน: ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + สะโพกไก่ลอกหนังต้ม
มื้อเย็น: แกงจืดเต้าหู้ไข่ + ผักกาดขาว
วันเสาร์
มื้อเช้า: ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + อะโวคาโด + ไข่ต้ม
มื้อกลางวัน: ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + ผัดผักใส่อกไก่ไม่ใช้น้ำมัน
มื้อเย็น: สลัดผัก + ทูน่าในน้ำแร่
วันอาทิตย์
มื้อเช้า: ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + น้ำพริกปลาทู + ผักลวก
มื้อกลางวัน: ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + ต้มยำไก่ไม่ใส่ครีม
มื้อเย็น: ข้าวไรซ์เบอร์รี่น้อยๆ + ไข่ตุ๋น
เคล็ดลับเสริมการลดน้ำหนัก
- ดื่มน้ำวันละ 1.5–2 ลิตร
- งดของทอด ของหวาน และเครื่องดื่มน้ำตาลสูง
- ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินเร็วหรือโยคะวันละ 30 นาที
- จำกัดข้าวไรซ์เบอร์รี่ไม่เกิน 1 ถ้วยตวงต่อมื้อ (ประมาณ 150–180 kcal)
สรุปการทาน ข้าวไรซ์เบอร์รี่เพื่อลดน้ำหนัก ไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อหรือจืดชืด หากวางแผนเมนูให้ดี และเลือกกับข้าวที่ดีต่อสุขภาพ คุณจะสามารถควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังได้รับสารอาหารครบถ้วนอีกด้วย
0 ความคิดเห็น